เพราะเรารักษ์เกาะทะลุ
เราอยากให้ธรรมชาติบนเกาะทะลุสวยงามตลอดไป เราจึงพยายามให้กิจกรรมการท่องเที่ยวสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
กิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมบนเกาะทะลุ ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างมลภาวะ เช่น พายเรือคายัค SUP เรือใบ ดำน้ำ
อาคารที่กลมกลืนกับธรรมชาติ
เราสร้างบ้านพักที่เปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติดั้งเดิมน้อยที่สุด ใช้วัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ บ้านบางหลังเป็นเรือนไทยแบบนอคดาวน์ซึ่งสามารถรื้อย้ายได้ง่าย
การจ้างงานในชุมชน
เราสนับสนุนการจ้างงานจากคนในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาศักยภาพ และสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่
บริหารจัดการน้ำจืด
น้ำที่ใช้คือน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติและการบริหารจัดการน้ำจืดอย่างมีประสิทธิภาพบนเกาะ จึงไม่ต้องใช้น้ำมันในการขนน้ำจืดจากบนฝั่งโดยไม่จำเป็น
อาหารจากท้องถิ่น
อาหารทุกมื้อบนเกาะ มาจากวัตถุดิบที่พยายามคัดสรรมาจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนรายได้โดยตรงให้คนในชุมชน และไม่สร้างมลภาวะในการขนส่งวัตถุดิบจากแหล่งอาหารระยะไกล
การประหยัดพลังงาน
ทุกคนคงรู้ดีกว่ามาเที่ยวทะเลนั้นคือโอกาสที่จะได้สูดอากาศดีๆ ในช่วงเวลาที่เราออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง จึงเป็นเวลางดใช้ไฟฟ้า เพื่อลดการใช้น้ำมัน ลดมลภาวะจากเครื่องยนต์ดีเซลในการปั่นไฟฟ้า
การจัดการขยะ
เราพยายามลดขยะพลาสติกด้วยการสร้างโรงบรรจุน้ำดื่มบนเกาะเพื่อลดการใช้ขวด อีกทั้งยังมีการจัดการแยกขยะ รีไซเคิล และนำขยะสดไปผ่านกระบวนการเป็นปุ๋ยชีวภาพในการปลูกผักสวนครัวกินกันเอง
เกาะทะลุเคยเป็นหมุดหมายที่นักเดินเรือรู้จักกันมานับร้อยปี ในฐานะ “ประตูสู่อ่าวสยาม” เรือขนสินค้าในอดีตเข้ามาอาศัยหลบลมพายุในช่วงฤดูมรสุม นักเดินเรือต่างรู้ดีว่า เกาะแห่งนี้มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งใต้น้ำและบนบก ในเวลาต่อมา จึงมีชาวบ้านเข้ามาตั้งรกรากอยู่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อทำสวนมะพร้าวตามวิถีชาวเกาะ ส่วนชาวประมงก็ใช้เกาะทะลุเป็นแหล่งจับปลาหาเลี้ยงชีพ
เมื่อข่าวความชุกชุมของฝูงปลาในอ่าวบางสะพานแพร่หลายออกไป กองเรือประมงจากทั่วสารทิศจึงพากันมาจับปลารอบๆ เกาะทะลุอย่างไม่บันยะบันยัง จนกระทั่งราว พ.ศ. 2522 คุณปรีดา เจริญพักตร์ อดีตชาวประมงจากเมืองเพชรบุรีได้ย้ายมาตั้งรกรากที่บางสะพาน หลังจากที่เคยนำเรืออวนลากเข้ามาจับปลาทูบริเวณด้านหลังเกาะทะลุจนตั้งตัวได้ จึงหันกลับมาซื้อที่ดินสวนมะพร้าวบนเกาะทะลุต่อจากชาวบ้านบนเกาะ และตั้งใจที่จะรักษาผืนดินบนเกาะทะลุ และท้องทะเลรอบๆ ให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม ด้วยการสร้างเกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ต และทำธุรกิจท่องเที่ยวบนแนวทางของการอนุรักษ์ พร้อมทั้งดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านโครงการต่างๆ มากมาย
ชาวเกาะทะลุ
พวกเราชาวเกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เรียกตัวเองว่าเป็นชาวเกาะ เพราะเกาะทะลุคือบ้านที่เราผูกพัน และใช้เวลาแทบทุกวันอยู่ที่นี่
ในทุกๆ เช้า ชาวเกาะทะลุจะพากันเดินเก็บขยะที่คลื่นซัดขึ้นเกยหาดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา คุณป้าแม่ครัวก็เริ่มคิดเมนูอาหารที่ได้มาจากวัตถุดิบสดๆ ในท้องถิ่น เพื่อเตรียมเสิร์ฟให้ผู้มาเยือนที่กำลังเพิ่งตื่นนอน ครูสอนดำน้ำประจำเกาะ ก็ว่ายน้ำออกไปสำรวจความเรียบร้อยของแปลงปลูกปะการัง เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุบาลเต่าทะเล ก็ขะมักเขม้นกับการล้างบ่ออนุบาลเต่า และดูแลความสุขของบรรดาลูกเต่านับร้อยตัวให้สมบูรณ์พูนสุขอยู่เสมอ
พอสายๆ ก็ได้เวลาต้อนรับการมาถึงของนักท่องเที่ยวชุดใหม่ที่กำลังนั่งเรือมาถึง พอบ่ายๆ ชาวเกาะทั้งหลาย ก็ได้เวลาออกไปทำความรู้จักกับฝูงปลาและปะการังใต้ทะเล พอย่ำค่ำ ชาวเกาะทะลุ ทั้งเจ้าบ้านและผู้มาเยือนก็ได้เวลาสังสรรค์พูดคุยกันในค่ำคืนที่สวยงาม และช่วงเวลาของชาวเกาะก็หมุนเวียนไปเช่นนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน
ชีวิตติดเกาะ
ไม่ว่าจะเป็นชาวเกาะที่ทำงานอยู่ที่นี่ทุกวัน หรือนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะทะลุเพียงชั่วข้ามวัน แต่ชีวิตติดเกาะที่นี่คือช่วงเวลาที่มีความสุข เพราะสิ่งละพันอันน้อยที่ห้อมล้อมอยู่รอบๆ ตัว ทั้งสายลม แสงแดด กลิ่นอายทะเล เสียงลมพัดใบไม้ สีของน้ำทะเลที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา ท้องฟ้าที่สดใสในยามกลางวันและเปลี่ยนเป็นสีทองในยามเย็น
เพราะธรรมชาติสวยงาม เราจึงตั้งใจสร้างรีสอร์ทที่จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท จึงเป็นรีสอร์ทของคนรักธรรมชาติ ที่จัดการอย่างรักธรรมชาติ เราสร้างที่พักแบบง่ายๆ แต่ความสุขของผู้มาเยือนนั้นมีอยู่ทุกที่ ตั้งแต่บนเตียงนอน เปลญวนใต้ร่มไม้ หรือบนผืนทรายชายหาด
เกาะทะลุมีขนาดไม่เล็กจนอึดอัด แต่ก็ไม่ใหญ่เกินกว่าที่จะเดินสำรวจด้วยสองเท้า เราจะรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่ เพราะมีเพียงแขกของรีสอร์ตเท่านั้นที่อยู่บนเกาะ เราสามารถใช้เวลาอ้อยอิ่งอยู่กับมุมต่างๆ ได้นานเท่าที่ต้องการ หรือถ้าอยากขยับตัวให้มากหน่อย ก็มีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ ทั่งพายเรือ ดำน้ำ เรือใบ เดินป่า หรือกิจกรรมเชิงอนุรักษ์และจิตอาสาต่างๆ และพอเหนื่อยได้ที่ ก็ได้เวลาอาหาร เราเสิร์ฟอาหารด้วยเมนูที่คุ้นเคยๆ แต่ใช้วัตถุดิบดีที่สุดจากทะเล และทั้งหมดนี้ เป็นความสุขไม่รู้จบที่รวมครบเอาไว้ในการบริการแบบ All Inclusive Package ที่รวมทุกอย่างไว้ในราคาเดียว